2556/01/11

ดื่มชาเขียวให้ถูกวิธี ถึงจะดีจริง


ระยะที่ผ่านมากระแสความนิยมการดื่มชาเขียว มีเพิ่มขึ้นอย่างมากมายพอดู เนื่องจากในชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสารที่มีพิษต่อร่างกาย และขับไขมันส่วนเกิน สิ่งเป็นเรื่องที่หญิงสาวทั้งหลายต่างปรารถนา แต่รู้ไหมว่าชาเขียวที่มีปะโยชน์มากหลายต่อร่างกาย ก็มีโทษแอบแฝงอยู่ โดยเฉพาะคนที่ชอบดื่มชาเขียวเย็น ๆ ต้องอ่านต่อไป...

 ชาวจีนรู้เรื่องประโยชน์ทางยาของชาเขียวมาตั้งแต่ครั้งโบราณ โดยใช้ชาเขียวในการรักษาตั้งแต่โรคปวดศีรษะไปจนถึงโรคซึมเศร้า  นอกจากนี้การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งในโลกตะวันตกและตะวันออกพบว่า การดื่มชาเขียวมีผลอย่างชัดเจนต่อสุขภาพ ชาเขียวช่วยลดอัตราการเสี่ยงของโรคมะเร็งหลอดอาหาร และยังช่วยยับยั้งอัตราการเติบโตของเซลมะเร็งได้ นอกจากนั้น ยังมีการวิจัยที่แสดงว่า การดื่มชาเขียวช่วยลดระดับคลอเรสเตอรอลโดยรวมได้ และยังช่วยปรับอัตรา HDL ให้เป็น LDL ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาเขียวได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างแพร่หลายในบ้านเรา 

ชาเขียวมีดีอะไร
ความดีความชอบของชาวเขียวอยู่ในปริมาณสารต้านพิษ Epigallocatechin Gallate (EGCG) ที่มีอยู่มากในตัวชา  และยังช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็งด้วยการฆ่าเซลมะเร็ง โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อส่วนดี นอกจากนั้นยังช่วยลดระดับ LDL คลอเรสเตอรอล และยับยั้งการก่อตัวแบบผิดปกติของก้อนเลือด ซึ่งเป็นเหตุของอาการหัวใจวายและลมชัก

ทำไมชาจีนอื่น ๆ จึงไม่ดีเท่าชาเขียว
การที่ชาเขียวมีประโยชน์มากกว่า ก็เนื่องมาจากกระบวนการแปรรูป โดยใบชาเขียวจะถูกนำมาอบไอน้ำ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้สารประกอบ EGCG เข้ารวมตัวกับออกซิเจน ในทางตรงข้าม ใบชาอูลองและชาดำกลับเกิดจากการนำใบชาไปหมัก ซึ่งทำให้ EGCG ถูกเปลี่ยนเป็นสารประกอบชนิดอื่น ซึ่งแทบไม่มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันหรือต่อสู้โรคใด ๆ เลย   จากการวิจัยพบว่าสาร EGCG ดังกล่าวนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายได้แก่
1. มีส่วนช่วยในขบวนการ การกำจัดไขมันโคเรสเตอรอลในหลอดเลือด ซึ่งทำให้ลดภาวะความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง จากการอุดตันของไขมันในหลอดเลือด
2. ช่วยในการขับสารพิษ และสารอนุมูลอิสระ จึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็งและโรคความเสื่อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
3. ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้นการทำงานระดับเซลล์
และนอกจากสรรพคุณดังกล่าวจากสาร EGCG ที่มีอยู่ในชาเขียวแล้ว ชาเขียวยังให้สารอื่นๆ อีกมากมายเช่น สารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ซึ่งมีประโยชน์ต่อขบวนการการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และขับสารพิษตกค้างออกจากร่างกายของเรา และจะทำงานร่วมกับสาร EGCG ในการช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่น และลดความเสี่ยงจากอันตรายของสารพิษและอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นชาเขียวยังมีวิตามิน (Vitamins) เกลือแร่ (Minerals) และสารอาหารจากพืชที่มีความสำคัญต่อร่างกายอีกมากมาย

ประโยชน์ด้านอื่นของชาเขียว
มีหลักฐานใหม่ ๆ ที่แสดงว่า ชาเขียวสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ ในเดือนพฤศจิกายน 1999 วารสาร The American Journal of Clinical Nutrition ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ในสวิสเซอร์แลนด์ นักวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มทั้งสารสกัดคาเฟอินและชาเขียว มีการเผาไหม้แคลลอรี่มากกว่า คนที่ได้คาเฟอินอย่างเดียว นอกจากนั้น ชาเขียวยังช่วยป้องกันฟันผุได้ด้วย ความสามารถในการทำลายแบคทีเรียของชาเขียว สามารถ ป้องกันอาหารเป็นพิษได้ และยังช่วยฆ่าแบคทีเรียในช่องปาก ในขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ถนอมผิว ที่มีส่วนผสมของชาเขียว ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาดับกลิ่นตัวหรือครีม บำรุงผิว ก็เริ่มมีวางขายในตลาด จึงทำให้สาว ๆ บ้านเราก็เริ่มดี๊ด๊ากับการหันมาดื่มชาเขียว และใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ 

ชาเขียวมีผลร้ายหรือไม่? และควรดื่มมากเท่าไหร่             
เรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มหันมาดื่มชาเขียวอย่างคนไทย  คือเรามักนิยมดื่มชาเขียวแช่เย็ ซึ่งมีขายอยู่มากมายตามท้องตลาด  ซึ่งในประเทศที่ดื่มชาเขียวเป็นนิจอย่างญี่ปุ่นเขาไม่ทำกัน เนื่องจากชาเขียวที่มีคุณอนันต์ แต่ก็มีโทษมหันต์เช่นกัน เพราะชาเขียว จะมีประโยชน์ต่อร่างกายในขณะที่ร้อนอยู่เท่านั้น ในทางกลับกันหากดื่มชาเขียวตอนที่เย็นแล้วกลับทำให้เกิดโทษต่อร่างกาย กล่าวคือ การดื่มชาเขียวแช่เย็น นอกจากไม่ช่วยในการลดอนุมูลอิสระสารพิษออกจากร่างกายได้แล้วยังก่อให้เกิดการเกาะตัวแน่นของสารพิษดังกล่าวอันเป็นสาเหตุของมะเร็ง นอกจากนี้ชาเขียวเย็นยังส่งผลให้ไขมันในร่างกายก่อตัวมากขึ้นตามผนังหลอดเลือด และอุดตันตามผนังลำไส้ ทำให้เกิดโรคร้ายตามมา อาทิเช่น หลอดเลือดหัวใจอุดตัน มะเร็งลำไส้ เส้นเลือดตีบ ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น มีการทดสอบให้เห็นอย่างง่าย ๆ และชัดเจนเกี่ยวกับอันตรายที่กล่าวมาเบื้องต้นนี้ให้สามารถเห็นได้ด้วยตนเอง โดยการนำชาเขียวแช่เย็น (ยิ่งเย็นจัดยิ่งชัดเจน) นำมาเทลงในชามก๋วยเตี๊ยว จะพบว่าหลังจากเทชาเขียวแช่เย็นลงไปได้ครู่เดียว จะมีคราบไขมันลอยเห็นเป็นคราบบนน้ำซุป หรือเกาะเป็นคราบที่ชามก๋วยเตี๊ยวทันที แล้วร่างกายของเราล่ะ จะเป็นอย่างไรเมื่อดื่มชาเขียวเย็น ๆ เข้าไป
ทางที่ดีรีบหันกลับมาดื่มชาเขียวร้อน ๆ จะดีกว่า เพราะประโยชน์ทั้งหลายที่กล่าวมาล้วนแล้วอยู่ในชาเขียวร้อนทั้งสิ้น ส่วนจะดื่มมากเท่าไหร่นั้น มีการวิจัยกันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็บอกว่าต้องดื่มถึงวันละ 10 ถ้วยถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด บ้างบอกว่าดื่มวัน 2 ถ้วยก็น่าจะเพียงพอแล้ว สรุปเอากลาง ๆ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ดื่มสักวันละไม่เกิน 4- 5 ถ้วย ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

ส่วนผลด้านลบที่พบจากการดื่มชาเขียวในด้านอื่น ๆ ก็คืออาการนอนไม่หลับ เนื่องมาจากคาเฟอีน ก็ก้ยังน้อยกว่ากาแฟ คือประมาณ 30-60 มก. ต่อชา 6-8 ออนซ์ เมื่อเทียบกับจำนวนคาเฟอิน กว่า 100 มก. ที่พบในกาแฟ 8 ออนซ์ 

ดังนั้นการดื่มชาชงอยู่เสมอ จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ถูกเชื่อว่ามีสารพิษหรืออนุมูลอิสระในร่างกายมาก ๆ อย่างเช่นผู้ที่อยู่ในโปรแกรมการกำจัดไขมัน หรือลดน้ำหนักหรือในผู้ที่ภาวะความเครียดจากการทำงานสูง เพราะสาระสำคัญจากชาจะช่วยในการกำจัดสารพิษตกค้างต่าง ๆ และช่วยในการปรับให้ร่างกายของเราสามารถกลับคืนสู่สมดุลเดิมได้อย่างรวดเร็ว และส่งผลทำให้เราพร้อมที่ทำงานหนักหรือเข้าสู่โปรแกรมเฉพาะต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย  ส่วนใครที่ชอบดื่มชาเขียวเย็น ๆ ก็เปลี่ยนความคิดใหม่ได้แล้วนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน……หุหุ


ที่มา: pooyingnaka