ระยะที่ผ่านมากระแสความนิ ยมการดื่มชาเขียว มีเพิ่มขึ้นอย่างมากมายพอดู เนื่องจากในชาเขียวมีสารต้านอนุ มูลอิสระที่เป็นสารที่มีพิษต่ อร่างกาย และขับไขมันส่วนเกิน สิ่งเป็นเรื่องที่หญิงสาวทั้ งหลายต่างปรารถนา แต่รู้ไหมว่าชาเขียวที่มี ปะโยชน์มากหลายต่อร่างกาย ก็มีโทษแอบแฝงอยู่ โดยเฉพาะคนที่ชอบดื่มชาเขียวเย็ น ๆ ต้องอ่านต่อไป...
ชาวจีนรู้เรื่องประโยชน์ ทางยาของชาเขียวมาตั้งแต่ครั้ งโบราณ โดยใช้ชาเขียวในการรักษาตั้งแต่ โรคปวดศีรษะไปจนถึงโรคซึมเศร้า นอกจากนี้การวิจัยทางวิ ทยาศาสตร์ทั้งในโลกตะวั นตกและตะวันออกพบว่า การดื่มชาเขียวมีผลอย่างชั ดเจนต่อสุขภาพ ชาเขียวช่วยลดอัตราการเสี่ ยงของโรคมะเร็งหลอดอาหาร และยังช่วยยับยั้งอัตราการเติ บโตของเซลมะเร็งได้ นอกจากนั้น ยังมีการวิจัยที่แสดงว่า การดื่มชาเขียวช่วยลดระดั บคลอเรสเตอรอลโดยรวมได้ และยังช่วยปรับอัตรา HDL ให้เป็น LDL ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ชาเขียวได้รับความนิยมขึ้นมาอย่ างแพร่หลายในบ้านเรา
ชาเขียวมีดีอะไร
ความดีความชอบของชาวเขียวอยู่ ในปริมาณสารต้านพิษ Epigallocatechin Gallate (EGCG) ที่มีอยู่มากในตัวชา และยังช่วยยับยั้งการเติ บโตของเซลมะเร็งด้วยการฆ่ าเซลมะเร็ง โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อส่วนดี นอกจากนั้นยังช่วยลดระดับ LDL คลอเรสเตอรอล และยับยั้งการก่อตัวแบบผิดปกติ ของก้อนเลือด ซึ่งเป็นเหตุของอาการหั วใจวายและลมชัก
ทำไมชาจีนอื่น ๆ จึงไม่ดีเท่าชาเขียว
การที่ชาเขียวมีประโยชน์มากกว่า ก็เนื่องมาจากกระบวนการแปรรูป โดยใบชาเขียวจะถูกนำมาอบไอน้ำ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้สารประกอบ EGCG เข้ารวมตัวกับออกซิเจน ในทางตรงข้าม ใบชาอูลองและชาดำกลับเกิ ดจากการนำใบชาไปหมัก ซึ่งทำให้ EGCG ถูกเปลี่ยนเป็นสารประกอบชนิดอื่ น ซึ่งแทบไม่มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันหรือต่อสู้โรคใด ๆ เลย จากการวิจัยพบว่าสาร EGCG ดังกล่าวนี้มีประโยชน์ต่อร่ างกายมากมายได้แก่
1. มีส่วนช่วยในขบวนการ การกำจัดไขมั นโคเรสเตอรอลในหลอดเลือด ซึ่งทำให้ลดภาวะความเสี่ยงต่ อโรคความดันโลหิตสูง จากการอุดตันของไขมันในหลอดเลื อด
2. ช่วยในการขับสารพิษ และสารอนุมูลอิสระ จึงส่งผลในการป้องกันความเสี่ ยงต่อภาวะมะเร็งและโรคความเสื่ อมของเซลล์และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
3. ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึ กสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เนื่องจากมีผลในการกระตุ้ นการทำงานระดับเซลล์
และนอกจากสรรพคุณดังกล่าวจากสาร EGCG ที่มีอยู่ในชาเขียวแล้ว ชาเขียวยังให้สารอื่นๆ อีกมากมายเช่น สารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ซึ่งมีประโยชน์ต่อขบวนการการสร้ างเซลล์เม็ดเลือดแดง และขับสารพิษตกค้างออกจากร่ างกายของเรา และจะทำงานร่วมกับสาร EGCG ในการช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้ สึกสดชื่น และลดความเสี่ยงจากอั นตรายของสารพิษและอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นชาเขียวยังมีวิตามิน (Vitamins) เกลือแร่ (Minerals) และสารอาหารจากพืชที่มีความสำคั ญต่อร่างกายอีกมากมาย
ประโยชน์ด้านอื่นของชาเขียว
มีหลักฐานใหม่ ๆ ที่แสดงว่า ชาเขียวสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ ในเดือนพฤศจิกายน 1999 วารสาร The American Journal of Clinical Nutrition ตีพิมพ์ผลการศึกษาที่มหาวิทยาลั ยเจนีวา ในสวิสเซอร์แลนด์ นักวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มทั้งสารสกัดคาเฟอิ นและชาเขียว มีการเผาไหม้แคลลอรี่มากกว่า คนที่ได้คาเฟอินอย่างเดียว นอกจากนั้น ชาเขียวยังช่วยป้องกันฟันผุได้ ด้วย ความสามารถในการทำลายแบคทีเรี ยของชาเขียว สามารถ ป้องกันอาหารเป็นพิษได้ และยังช่วยฆ่าแบคทีเรียในช่ องปาก ในขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ถนอมผิว ที่มีส่วนผสมของชาเขียว ไม่ว่าจะเป็นน้ำยาดับกลิ่นตั วหรือครีม บำรุงผิว ก็เริ่มมีวางขายในตลาด จึงทำให้สาว ๆ บ้านเราก็เริ่มดี๊ด๊ากับการหั นมาดื่มชาเขียว และใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ชาเขียวมีผลร้ายหรือไม่? และควรดื่มมากเท่าไหร่
เรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับผู้ ที่เพิ่งเริ่มหันมาดื่มชาเขียวอย่างคนไทย คือเรามักนิยมดื่มชาเขียวแช่เย็ น ซึ่งมีขายอยู่มากมายตามท้ องตลาด ซึ่งในประเทศที่ดื่มชาเขียวเป็ นนิจอย่างญี่ปุ่นเขาไม่ทำกัน เนื่องจากชาเขียวที่มีคุณอนันต์ แต่ก็มีโทษมหันต์เช่นกัน เพราะชาเขียว จะมีประโยชน์ต่อร่างกายในขณะที่ ร้อนอยู่เท่านั้น ในทางกลับกันหากดื่มชาเขี ยวตอนที่เย็นแล้วกลับทำให้เกิ ดโทษต่อร่างกาย กล่าวคือ การดื่มชาเขียวแช่เย็น นอกจากไม่ช่วยในการลดอนุมูลอิ สระสารพิษออกจากร่างกายได้แล้ วยังก่อให้เกิดการเกาะตัวแน่ นของสารพิษดังกล่าวอันเป็ นสาเหตุของมะเร็ง นอกจากนี้ชาเขียวเย็นยังส่ งผลให้ไขมันในร่างกายก่อตั วมากขึ้นตามผนังหลอดเลือด และอุดตันตามผนังลำไส้ ทำให้เกิดโรคร้ายตามมา อาทิเช่น หลอดเลือดหัวใจอุดตัน มะเร็งลำไส้ เส้นเลือดตีบ ฯลฯ เหล่านี้เป็นต้น มีการทดสอบให้เห็นอย่างง่าย ๆ และชัดเจนเกี่ยวกับอันตรายที่ กล่าวมาเบื้องต้นนี้ให้ สามารถเห็นได้ด้วยตนเอง โดยการนำชาเขียวแช่เย็น (ยิ่งเย็นจัดยิ่งชัดเจน) นำมาเทลงในชามก๋วยเตี๊ยว จะพบว่าหลังจากเทชาเขียวแช่เย็ นลงไปได้ครู่เดียว จะมีคราบไขมันลอยเห็นเป็ นคราบบนน้ำซุป หรือเกาะเป็นคราบที่ชามก๋วยเตี๊ ยวทันที แล้วร่างกายของเราล่ะ จะเป็นอย่างไรเมื่อดื่มชาเขี ยวเย็น ๆ เข้าไป
ทางที่ดีรีบหันกลับมาดื่มชาเขี ยวร้อน ๆ จะดีกว่า เพราะประโยชน์ทั้งหลายที่กล่ าวมาล้วนแล้วอยู่ในชาเขียวร้ อนทั้งสิ้น ส่วนจะดื่มมากเท่าไหร่นั้น มีการวิจัยกันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็บอกว่าต้องดื่มถึงวันละ 10 ถ้วยถึงจะได้ประโยชน์สูงสุด บ้างบอกว่าดื่มวัน 2 ถ้วยก็น่าจะเพียงพอแล้ว สรุปเอากลาง ๆ ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ดื่มสักวันละไม่เกิน 4- 5 ถ้วย ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ส่วนผลด้านลบที่พบจากการดื่ มชาเขียวในด้านอื่น ๆ ก็คืออาการนอนไม่หลับ เนื่องมาจากคาเฟอีน ก็ก้ยังน้อยกว่ากาแฟ คือประมาณ 30-60 มก. ต่อชา 6-8 ออนซ์ เมื่อเทียบกับจำนวนคาเฟอิน กว่า 100 มก. ที่พบในกาแฟ 8 ออนซ์
ดังนั้นการดื่มชาชงอยู่เสมอ จะเป็นประโยชน์ต่อร่ างกายของเราอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่ถูกเชื่อว่ามี สารพิษหรืออนุมูลอิสระในร่ างกายมาก ๆ อย่างเช่นผู้ที่อยู่ ในโปรแกรมการกำจัดไขมัน หรือลดน้ำหนักหรือในผู้ที่ ภาวะความเครียดจากการทำงานสูง เพราะสาระสำคัญจากชาจะช่ วยในการกำจัดสารพิษตกค้างต่าง ๆ และช่วยในการปรับให้ร่ างกายของเราสามารถกลับคืนสู่ สมดุลเดิมได้อย่างรวดเร็ว และส่งผลทำให้เราพร้อมที่ ทำงานหนักหรือเข้าสู่ โปรแกรมเฉพาะต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มี อันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย ส่วนใครที่ชอบดื่มชาเขียวเย็น ๆ ก็เปลี่ยนความคิดใหม่ได้แล้ วนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน……หุหุ
ที่มา: pooyingnaka